ตลาดเยื่อไม้เนื้อแข็ง: ยอดขายเยื่อคราฟท์ไม้เนื้อแข็งฟอกขาว (Bleached Hardwood Kraft : BHK) ในประเทศจีน ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในเดือนเมษายนถึงต้นพฤษภาคม โดยหลังจากหยุดยาวหลังวันแรงงาน ผู้ซื้อชาวจีนกลับมาจับจองสินค้ากันอย่างคึกคัก ตอบสนองกับการหั่นราคาของผู้ค้ารายใหญ่ ที่ต้องการเพิ่มยอดขายและลดปริมาณสินค้าในสต็อกที่ได้สะสมมาในช่วงไตรมาสแรก ระหว่างที่ผู้ซื้อต่างชะลอคำสั่งซื้อไป
Arauco ซึ่งกำลังทำตลาดเยื่อไม้เนื้อแข็ง BHK จำนวนกว่า 1.56 ล้านตันต่อปี บนโปรเจค MAPA ในประเทศแถบเอเชีย ได้ลดราคาสำหรับสินค้ารอบส่งมอบเดือนมิถุนายนลง $75 ต่อตัน เหลือ $475 ต่อตัน โดยผู้ผลิตชาวชิลีรายอื่นต่างตอบสนองด้วยการปรับราคาลงตาม Arauco เพื่อที่จะระบายสต็อกและรักษากระแสเงินสดเอาไว้
แหล่งข่าวเผยว่าการแข่งขันทางราคาในช่วงที่ผ่านมา ช่วยให้ผู้ผลิตเยื่อไม้เนื้อแข็ง BHK จากฝากฝั่งอเมริกาใต้ สามารถระบายสินค้าไปได้จำนวนมากกว่า 300,000 ตัน และผู้ผลิตบางรายเริ่มขาดแคลนสินค้า เปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสามารถจะขยับขึ้นราคาเยื่อไม้เนื้อแข็งได้บ้าง เนื่องจากระดับราคาในปัจจุบันนั้นต่ำเกินไป
ทั้งนี้ เนื่องจากระดับราคาของเยื่อไม้เนื้อแข็ง BHK ที่ต่ำมาก ทำให้ผู้ผลิตในประเทศจีนหลายรายต้องผันตัวไปผลิตเยื่อเคมีชนิดละลายน้ำ (Dissolving Pulp) แทน ซึ่งให้ราคาสูงกว่า
ตลาดเยื่อไม้เนื้ออ่อน: ข้ามกลับมาทางฝากฝั่ง ตลาดเยื่อไม้เนื้ออ่อน ในช่วงที่ผ่านมา Arauco ได้หั่นราคา $20 – $40 ต่อตัน เช่นกัน ขึ้นอยู่กับประเภทของเยื่อไม้ โดยสำหรับตลาดนอร์ดิกในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา มีการปรับราคาเยื่อคราฟท์ไม้เนื้ออ่อนฟอกขาว (Northern Bleached Softwood Kraft : NBSK) ลง $10 – $20 ต่อตัน ไปสู่ระดับ $630 – $680 ต่อตัน ขณะที่ตลาดแคนนาดายังคงลังเลที่จะปรับราคาให้ต่ำกว่า $700 ต่อตัน เนื่องจากประสบกับปัญหาขาดแคลนไม้สับ และต้นทุนการผลิตที่สูง ซึ่งนำไปสู่การหยุดเดินเครื่อง
ทั้งนี้ เนื่องด้วยในช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา กรมศุลกากรจีนได้รายงานการนำเข้าเยื่อไม้เนื้ออ่อน BSK สูงถึง 836,775 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 40.2% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ทำให้ผู้ค้าหลายรายเริ่มจับสัญญาณความเพียงพอของเยื่อไม้ในตลาด และลดปริมาณคำสั่งซื้อในอนาคต เพื่อลดปริมาณการกักตุนเยื่อไม้ในเกรดนี้ลง
ความกังวลของตลาด: การฟื้นตัวของตลาดเยื่อไม้เนื้อแข็ง BHK ส่งผลให้ผู้ผลิตบางรายคาดหวังว่าจะขยับระดับราคาขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ อย่างไรก็ดี ผู้ค้าส่วนใหญ่ยังคงคาดการณ์ว่า สถานการณ์ราคาน่าจะอยู่ในระดับเดิมต่อไปในช่วง 2-3 เดือนต่อจากนี้
ทั้งนี้ ผู้ค้าบางรายเผยถึงความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์อุปทานส่วนเกิน และกำลังผลิตที่มีมากเกินไปในอุตสาหกรรมกระดาษและบอร์ดในประเทศจีน ซึ่งเป็นห่วงโซ่อุปทานที่ต่อเนื่องกัน
ผู้เชี่ยวชาญเผยว่า แม้ราคาเยื่อกระดาษที่ปรับตัวลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา จะช่วยลดแรงกดดันทางราคาให้กับผู้บริโภคปลายทางได้ แต่ราคาของกระดาษและบอร์ดก็ได้รับแรงกดในสัดส่วนเดียวกัน โรงงานกระดาษขนาดกลางและเล็กหลายแห่ง ถึงกับเล็งเห็นโอกาสในช่วงที่ราคาเยื่อปรับอ่อนตัวอย่างรุนแรง และเริ่มกักตุนวัตถุดิบราคาถูก เพื่อที่จะเพิ่มกำลังผลิตกระดาษและบอร์ดในช่วงถัดไป
โดยย่างก้าวดังกล่าวของผู้ผลิตขนาดกลางและเล็กเหล่านี้ จะทำให้สถานการณ์อุปทานส่วนเกินของอุตสาหกรรมกระดาษและบอร์ดย่ำแย่ลงไปอีก โดยผู้ผลิตรายใหญ่ล้วนต่างไม่ยินดีกับพัฒนาการในตลาดดังกล่าว
ยิ่งไปกว่านั้น การที่เยื่อไม้เนื้อแข็ง BHK จากโปรเจค MAPA ของ Arauco และ UPM จำนวนกว่า 2.1 ล้านตันต่อปีที่อุรุกวัย ที่กำลังค่อย ๆ เพิ่มกำลังผลิตขึ้น และเริ่มมุ่งหน้าเข้าสู่ตลาดจีน จะส่งผลกระทบทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงไปอีก
แหล่งข่าวยังเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมาผู้ที่มีการเพิ่มปริมาณสั่งซื้อจำนวนมากเพื่อเติมสต็อก มักจะเป็นโรงงานขนาดกลางและเล็ก รวมถึงผู้ผลิตกระดาษทิชชู่บางราย ในขณะที่กลุ่มโรงงานขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผู้ผลิต Ivory board โรงงานกระดาษขนาดใหญ่ รวมไปถึงโรงงานผลิตกระดาษทิชชู่รายใหญ่ มักจะยังคงปริมาณการสั่งซื้อเท่าเดิม หรือปรับลดลงเนื่องจากการคาดการณ์ความต้องการสินค้าปลายทางที่แผ่วลงในช่วงฤดูร้อน
อ้างอิง
[1] https://www.risiinfo.com/ic/news/pulpandpaper/hardwood-rally-continues-in-china-with-further-price-cuts-arauco-cuts-levels-for-all-grades225956.html
[2] https://www.risiinfo.com/ic/news/pulpandpaper/chinese-buyers-come-back-to-the-market-to-snap-up-bhk-tonnages-after-further-price-cuts225540.html